สุขภาพดีด้วยวิตามิน E จากผัก 5 ชนิด

สุขภาพดีด้วยวิตามิน E จากผัก 5 ชนิด


วิตามินอี  ( Vitamin E ) หนึ่งในวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งไม่ได้โดดเด่นแค่การมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือดได้ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งและลดความเสี่ยงโรคหัวใจ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพผิว

 

ทั้งนี้ปริมาณของวิตามินอีที่ร่างกายควรได้รับจะแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดังนี้

 

อายุ 1-3 ปี ควรได้รับ ปริมาณวิตามินอี ต่อวันที่ 3 มิลลิกรัม

อายุ 4-8 ปี ควรได้รับ ปริมาณวิตามินอี ต่อวันที่ 7 มิลลิกรัม

อายุ 9-12 ปี ควรได้รับ ปริมาณวิตามินอี ต่อวันที่ 11 มิลลิกรัม

อายุ 13-15 ปีเป็นต้นไป ควรได้รับปริมาณวิตามินอี ต่อวันที่ 15 มิลลิกรัม

 

หากเป็นหญิงกำลังในนมบุตร ( โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด ) ควรเพิ่ม ปริมาณวิตามินอี ต่อวันไปอีก 4 มิลลิกรัม เนื่องจากวิตามินอี จะช่วยลดความเสี่ยง ในการติดเชื้อ และลดความเสียหาย ของจอประสาทตา ซึ่งเรามักจะพบวิตามินอีใน 3 รูปแบบ ต่อไปนี้

 

ยา ในทางการแพทย์ จะใช้วิตามินอี รักษาโลหิตจาง ในเด็กแรกคลอด โรคขาดสารอาหาร รวมถึงรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ

 

เครื่องสำอาง จะเรียกว่าเป็นวิตามินสำคัญ ในเรื่องความสวยงามเลยก็ว่าได้ เพราะมีการนำ มาใช้ร่วมกับการผลิตเครื่องสำอาง มากมาย โดยใช้เป็นสาร ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้ผสม ในครีมกันแดด และช่วยสมานผิวหนังที่เป็นแผล

 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยจะใช้ในการบำรุงร่างกาย ป้องกันการเกิดโรค และลดความรุนแรง ของภาวะต่าง ๆ

 

แต่นอกจากนี้ เราสามารถรับวิตามินอี ทางธรรมชาติ ได้โดยผ่านการกินผัก และผลไม้ ซึ่งวันนี้ KC Fresh สำรวจข้อมูลมาให้แล้วว่า 5 ผักต่อไปนี้ มีปริมาณวิตามินอี ที่ควรค่า แก่การบริโภคอย่างยิ่ง

 

1. ผักโขม : อีกหนึ่งสุดยอดผัก ที่ให้ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์สูง ต่อร่างกาย ทั้งยังถือ เป็นผักสุดฮิต สำหรับคน ที่รักสุขภาพ โดยผักโขมสุก 1 ถ้วย จะให้วิตามินอีถึง 4 มิลลิกรัม

 

2. บรอกโคลี : ผักที่อุดม ไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ เค และซี รวมถึง แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ แถมยัง มีแคลอรี่ต่ำ ที่สำคัญ บรอกโคลี จัดว่าเป็น แหล่งวิตามินอี ที่ดีมาก ๆ เพราะในบรอกโคลี 100 กรัม จะมีวิตามินอี อยู่ถึง 0.78 มิลลิกรัม

 

3. เคล : ผักเคล หรือที่หลายคน เรียกว่า ผักคะน้าใบหยิก มีทั้งสีเขียว และสีม่วง เป็นผัก ที่มีคุณค่า ทางอาหารสูง ที่สุดในโลก จนได้ชื่อว่า เป็น The queen of green หรือราชินีแห่งผัก ที่คุณสามารถ รับวิตามินอี จากธรรมชาติ ได้อย่างสบาย ๆ โดยในเคล 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี ถึง  0.66 มิลลิกรัม ที่มาพร้อม สารอาหารอีกเพียบ  ผักเคล มีเส้นใยสูง ช่วยลดน้ำหนัก กินแล้วอิ่มนาน ทั้งยังช่วย ลดคอเลสเตอรอล ได้ดี เปี่ยมด้วย ธาตุเหล็กสูงมาก จึงช่วยบำรุงเลือด และยังมีวิตามินเคสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง รวมถึงดู แลสุขภาพ กระดูกและการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการที่มีวิตามินเคสูงเป้นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์

 

นอกจากนี้ยังพบว่า ผักเคล หนึ่งถ้วย อุดมไปด้วย กรดไขมัน โอเมก้า 3 ถึง 10%  ช่วยในการต่อสู้ กับโรคข้ออักเสบ โรคหอบหืด และความผิดปกติ ของภูมิต้านทาน เนื้อเยื่อ และยังมีวิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น ช่วยป้องกัน มะเร็งปอด และช่องปาก

 

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผักเคล ยังช่วยเสริม ระบบภูมิคุ้มกัน และมีแคลเซียม ช่วยในการป้องกัน การสูญเสียกระดูก ป้องกัน โรคกระดูกพรุน ช่วยใน การเผาผลาญอาหาร  มีวิตามินซี ที่เป็นประโยชน์ ในการรักษากระดูกอ่อน และอุดมไปด้วยเส้นใย และกำมะถันดี สำหรับการล้างพิษ ร่างกายทำให้ตับ มีสุขภาพดี

 

4. มะเขือเทศ : ถ้าพูดถึงผักผลไม้ ที่ให้คุณค่า กับผิวพรรณ หลายคน เป็นต้องคิดถึง มะเขือเทศอย่างแน่นอน  เพราะในมะเขือเทศ มีทั้ง วิตามินซี วิตามินเอ ไฟเบอร์ และโพแทสเซียม ที่ให้คุณค่าโดยตรง ในเรื่องผิวพรรณ นอกจากนี้ ในมะเขือเทศ ยังมีวิตามินอี ในปริมาณที่ ไม่น้อยหน้าใคร โดยในมะเขือเทศสด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน ในปริมาณ 100 กรัม จะให้วิตามินอี 0.54 มิลลิกรัม ขณะหากนำ มาแปรรูปเป็นซอสมะเขือเทศ และน้ำมะเขือเทศ ก็ยังมีปริมาณ วิตามินอีอยู่ เพียงแต่ อาจลดลง จากการกินผลสด

 

5. พริกหยวก : นอกจาก สีสันที่สวยงาม น่าดึงดูดแล้ว เมื่อกินเข้าไป จะมีส่วนช่วย ให้ผิวเรียบเนียน เพราะในพริกหยวก มาพร้อมคุณค่า สารอาหาร มากมาย โดยเฉพาะวิตามินอี ที่มีในปริมาณ 0.37 มิลลิกรัม ต่อการกินพริกหยวก 100 กรัม ทั้งนี้พริกหยวกสีแดง จะให้วิตามินอี มากที่สุด ขณะที่พริกหยวกเขียว และเหลือง ให้วิตามินอี ในปริมาณที่ ต่ำกว่าเล็กน้อย

 

รู้อย่างนี้แล้ว มาเช็คกันค่ะว่า คุณอยู่ในช่วงวัยไหน และควรได้รับ ปริมาณวิตามินอี ที่เท่าไหร่ จากนั้นเลือกผักที่ชอบไว้ในลิสต์เมนูอาหารได้เลยค่ะ

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

ลดสารพิษตกค้างในผักผลไม้ ด้วยวิธีชำระล้างอย่างปลอดภัย

ผักผลไม้แก้ร้อนใน ช่วงหน้าร้อน


ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1

ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1

ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่

ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษา กรดไหลย้อน ได้จริงหรือไม่