วิธีเลือกซื้อจักรยานนั่งปั่นไฟฟ้า

     จักรยานออกกำลังกาย ประเภทที่นิยมมากที่สุดในการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยให้น่องขาของเราลดลงได้ และยังมีความ แข็งแรง ทนทาน มากกว่าประเภทอื่นๆ โดยเราสามารถทั้ง นั่งปั่น ยืนปั่น ก็ว่าได้

เรามีวิธีการเลือกซื้อ จักรยานไฟฟ้า มาเป็นข้อๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดังต่อไปนี้

1. ระบบการหมุนล้อจักรยาน

     จักรยาน มีหลักการคือ ผู้ใช้ออกแรงปั่น ทำให้ล้อจักรยาน หรือที่เรียกว่า Flywheel หมุน โดยระบบการหมุนล้อจักรยาน หรือ Transmission System แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

ระบบโซ่ (Chain) เป็นระบบมาตราฐานของจักรยาน เหมือนจักรยานทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยข้อเสียคือ เวลาปั่นจะมีเสียงดัง และ ไม่นุ่มนวล และ โซ่ยังมีโอกาสหลุด หรือ ขาดได้อีกด้วย

 ระบบสายพาน (Belt)  เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อจักรยานออกกำลังกายโดยเฉพาะ การปั่นจะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล และ ไม่มีเสียงดัง ความแข็งแรงทนทานมีมากกว่าแบบโซ่ เพราะสายพานจะทำจากยางสังเคราะห์คุณภาพสูง ที่ไม่ขาดง่าย

2. ระบบสร้างแรงต้าน

     ระบบสร้างแรงต้าน (Resistance System) เป็นระบบที่สำคัญมากในจักรยานออกกำลังกายทุกประเภท เพราะแรงต้านที่มากขึ้น หมายถึงผู้ใช้ต้องออกแรงมากขึ้น ใช้แคลอรีมากขึ้น และ เป็นการฝึกร่างกายให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ในปัจจุบัน ระบบสร้างแรงต้านมีอยู่ 2 แบบ คือ

 ระบบผ้าเบรค (Brake Resistance)  เป็นระบบมาตราฐาน โดยหากผู้ใช้ต้องการเพิ่มแรงต้าน ก็เพียงปรับให้ผ้าเบรคกดทับล้อจักรยานมากขึ้น เหมือนกับการใช้เบรคจักรยานปกตินั่นเอง ข้อดีคือ ราคาไม่แพง และ หาอะไหล่ง่าย แต่ข้อเสียคือ มีเสียงการเสียดสีระหว่างผ้าเบรคกับจานล้อจักรยาน และในระยะยาว อาจจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรค เพราะมีการสึกหรอนั่นเอง

 ระบบแม่เหล็ก (Magnetic Resistance)  เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นใหม่ สร้างแรงต้านด้วยแม่เหล็กกำลังสูง เมื่อผู้ใช้ต้องการปรับแรงต้านให้มากขึ้น ก็คือปรับตัวแม่เหล็กให้เข้าใกล้จานล้อจักรยานมากขึ้น ข้อดีคือ ไม่มีเสียง เพราะไม่มีการเสียดสี ไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ตัวสร้างแรงต้าน และ ความรู้สึกที่นุ่มนวลเวลาปั่น อย่างไรก็ตาม จักรยานแม่เหล็กจะมีราคาแพงกว่า และ สร้างแรงต้านได้น้อยกว่าแบบผ้าเบรค รวมถึงระบบต่างๆ จะไม่แข็งแรงเท่าระบบผ้าเบรค

3. น้ำหนักจานล้อจักรยาน

     น้ำหนักของล้อจักรยาน หรือ Flywheel ที่มากขึ้น หมายความว่าต้องออกแรงในการปั่นมากขึ้น ดังนั้น เราจึงควรเลือกน้ำหนักให้เหมาะสม

จานล้อหนัก 6-12 กิโลกรัม สำหรับใช้ออกกำลังกายทั่วไป เป็นน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับทุกคนในครอบครัว ถ้าสำหรับการออกกำลังกายในบ้านเริ่มต้นปั่นจักรยาน ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ หรือ ลดน้ำหนัก แนะนำให้ใช้น้ำหนักประมาณนี้

 จานล้อหนัก 15-20 กิโลกรัม สำหรับผู้ที่ต้องการปั่นจักรยานอย่างจริงจัง หรือผู้ที่ออกกำลังกายคาร์ดิโออย่างจริงจัง รวมไปถึงซ้อมปั่นจักรยาน แนะนำให้ใช้น้ำหนักประมาณนี้

จานล้อหนัก 20+ กิโลกรัม สำหรับใช้ในฟิตเนส หรือ โรงยิม จะใช้จานล้อที่หนัก 20 กิโลกรัมเป็นมาตรฐาน

4. ฟังก์ชั่นหน้าจอ

ปกติแล้วจักรยาน Spin Bike ทุกตัว จะมีฟังก์ชั่นพื้นฐาน 5 ฟังก์ชั่น คือ

 ระยะทาง ความเร็ว เวลาปั่น แคลอรี ระยะทางสะสม

อย่างไรก็ตาม ทางเราแนะนำให้เลือกซื้อเฉพาะจักรยานที่ได้มาตราฐาน ซึ่งจะต้องมีอีก 1 ฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นมา นั่นคือ

ชีพจร สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกาย คาร์ดิโอ แบบโซนนิ่ง (Zoning) หรือ ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ

และสำหรับจักรยานที่เป็นเกรดพรีเมี่ยม จะมีมากกว่า 6 ฟังก์ชั่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่สำคัญคือ

 รอบขา หรือ RPM (Round per Minute) สำหรับผุ้ที่ต้องควบคุมรอบขาในการปั่น เพื่อฝึกปั่นจักรยานอย่างจริงจังให้ได้รอบที่ต้องการ

     และนี่คือข้อแนะนำในการ เลือกซื้อ จักรยานไฟฟ้า และเราได้รวบรวมให้ลูกค้าทุกๆ ท่านอ่านเพื่อเป็นแนวทางในการซื้อจักรยานออกกำลังกาย ให้ได้รุ่นที่ถูกใจ คุ้มค่าเงินที่สุด เลือกซื้อสินค้าได้ที่ พอดีช้อป เลยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก galaxyfitness

อ่านบทความเพิ่มเติม

อยากหุ่นเฟิร์ม ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยคุณได้

เลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ให้คุ้มค่า สบายกระเป๋า

ข้อคิดก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า