รู้หรือไม่ว่าผักและผลไม้สดตามตลาด
มีทั้งสารพิษและยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่
จึงทำให้มีโอกาสจะเกิดเชื้อไวรัสเชื้อแบคทีเรียที่สะสม ในผักผลไม้ ปนเปื้อนได้
บทความนี้จึงขอแนะนำวิธีล้างผักและผลไม้ให้ปลอดภัยจากสารพิษ มาฝากกันค่ะ
ล้างผักผลไม้
ผักและผลไม้สดที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดส่วนใหญ่จะมีสารพิษจากยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่
รวมไปถึงเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และสารโลหะหนักอื่น ๆ
ที่ปะปนมากับผักผลและไม้ ซึ่งสารเหล่านี้จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในหลาย ๆ
ด้าน สารพิษเหล่านี้จะเกาะกับผิวบางส่วนและแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อของผักผลไม้
ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราไม่สามารถมองเห็นสารพิษที่ติดมากับผักและผลไม้
โรคที่มาพร้อมกับผักและผลไม้ที่ปนเปื้อนสารพิษจะมีทั้งโรคชนิดที่เกิดแบบเฉียบพลันและโรคเรื้อรัง
อาการเฉียบพลัน เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้ามืด หายใจไม่ออก ปวดท้อง
ท้องเสีย เป็นไข้ ตัวชา หรือแม้แต่หมดสติไป หรือที่เรียกว่า
"อาหารเป็นพิษ" ส่วนโรคเรื้อรังของการได้รับสารพิษที่มาจากผักและผลไม้
ส่วนมากจะมาจากการได้รับสารจากยาฆ่าแมลง เช่น ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์
โรคพาร์กินสัน โรคกระเพาะอาหาร
การเจริญเติบโตที่ผิดปกติในเด็กและทำให้เกิดความเครียด เป็นต้น
วิธีล้างผักผลไม้ให้สะอาด
การแช่น้ำ
เริ่มด้วยการล้างผักรอบแรกให้สะอาดเสียก่อน
หลังจากนั้นเด็กผักออกเป็นใบ ๆ แล้วนำมาแช่ในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ประมาณ 15 นาที
วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากฆ่ายาแมลงได้ประมาณ 7-33%
ล้างผักโดยให้น้ำไหลผ่าน
โดยเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ
นำมาใส่ในตะกร้าหรือตะแกรงโปร่ง แล้วเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ
ระหว่างล้างให้ใช้มือช่วยคลี่ใบผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้ไปด้วยประมาณ 2 นาที
วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ 25-63%
(วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมและได้ผลดีมาก แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของการใช้เวลานานในการล้างและต้องใช้น้ำสะอาดปริมาณมาก)
ปอกเปลือก
วิธีนี้ให้นำผักหรือผลไม้มาปอกเปลือกหรือการลอกใบผักชั้นนอกออก
เช่น กะหล่ำปลี ฯลฯ โดยให้ลอกเปลือกหรือกาบด้านนอกออกทิ้งสัก 2-3 ใบ
เพราะสารพิษส่วนใหญ่จะสะสมตกค้างบริเวณเปลือกด้านนอกหรือบริเวณกาบ
แล้วจึงนำไปแช่ในน้ำสะอาดอีกประมาณ 5-10 นาที
หลังจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของสารพิษตกค้างได้ประมาณ 27-72%
ลวกผักหรือต้มผัก
ก่อนนำมาลวกให้นำผักมาล้างให้สะอาดเสียก่อน
แล้วจึงนำมาลวกหรือต้ม โดยการลวกผักด้วยน้ำร้อนจะช่วยลดสารพิษได้ 50%
ส่วนการต้มผักนั้นก็ช่วยลดสารพิษได้ประมาณ 50% เช่นกัน
แต่การต้มผักจะมีสารพิษที่ตกค้างอยู่ในน้ำแกงได้
ดังนั้นจึงควรทิ้งน้ำที่ต้มครั้งแรกเสียก่อน
แล้วจึงค่อยนำไปประกอบอาหารหรือรับประทาน (วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ดีและปลอดภัย
แต่จะทำให้ผักและผลไม้เสียคุณค่าทางอาหารไปกับน้ำและความร้อน เช่น วิตามินบี1
วิตามินบี3 วิตามินซี เป็นต้น)
น้ำเกลือ
ให้ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
นำมาผสมกับน้ำ 4 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง จะช่วยลดปริมาณของสารพิษตกค้างได้ประมาณ
27-38% (วิธีนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะลดปริมาณของสารพิษได้ไม่มาก
และอาจทำให้ผักและผลไม้มีรสเค็มได้) เนื่องจากเกลือเป็นโซเดียมคลอไรด์ที่มีส่วนทำให้สารตกค้างหรือยาฆ่าแมลงนั้นคงทนยิ่งขึ้น
ทำให้ยังมีสารตกค้างอยู่ผักและผลไม้ ลองศึกษาเพิ่มเติมดูก่อนนะ
จะเห็นได้ว่าในแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
จะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความสะดวกของแต่ละคน
รวมไปถึงชนิดและปริมาณของผักไม้ ถ้าอยากเปลี่ยนวิธีล้างผักเป็นวิธีอื่น เราขอแนะนำ
ล้างผักผลไม้ ด้วย น้ำยาล้างผักผลไม้
(ขนาด 350 มล. 1 ขวด) ตรา ชิได ที่ใช้ล้างสารเคมี ยาฆ่าแมลง ได้ 99.99%
ที่ได้รับการรับรองจากอย. วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณของสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้ประมาณ
25-70% เลยทีเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
medthai
อ่านบทความเพิ่มเติม
ลดสารพิษตกค้างในผักผลไม้
ด้วยวิธีชำระล้างอย่างปลอดภัย
เลือกดู
ลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เสียดายเงินทีหลัง
ประโยชน์โอเมก้า 3 สารอาหาร ที่จำเป็นเพื่อ สุขภาพ ที่ดี ในเด็ก
ประโยชน์โอเมก้า 3 สารอาหาร ที่จำเป็นเพื่อ สุขภาพ ที่ดี ในเด็ก
ผิวกระจ่างใส สวยด้วยสบู่เหลวใบมะกอก ตราเวอร์ริจินส์
ผิวกระจ่างใส สวยด้วยสบู่เหลวใบมะกอก ตราเวอร์ริจินส์