เลือกกิน อาหาร ให้เหมาะกับ วัยทอง

เมื่อเข้าสู่ วัยทอง ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในร่างกาย ผู้ที่กำลังจะเข้าสู่วัยทอง จึงควรมีความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ต้องรับมือ โดยเฉพาะในการรับประทาน อาหาร จะต้องมีความเลือกกินให้เหมาะสมกับวัย

วัยทอง เป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงจากวัยทำงานไปสู่วัยสูงอายุ เกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 -50 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศลดลง ทั้งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเพศชาย และฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง จึงส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น นอนหลับยาก อารมณ์แปรปรวน หลงลืมง่าย หงุดหงิดง่าย เหนื่อยง่าย ร้อนวูบวาบ เป็นต้น ซึ่งในเพศหญิงจะมีอาการรุนแรงกว่าเพศชายมาก เนื่องจาก รังไข่หยุดทำงาน ทำให้หมดประจำเดือน นั่นเอง ทำให้ร่างกายเสียสมดุลจากในส่วนนี้

เมื่อเข้าใกล้วัยทอง หรืออยู่ในวัยทองแล้ว คุณต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับตนเองก่อน ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง หรือก้าวเข้าสู่วัยทองแล้ว เพื่อให้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะตามมาและเพื่อให้ควบคุม แก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้  โดยเฉพาะในเรื่องของอารมณ์ ที่ต้องพยายามควบคุมให้ได้

ด้านอาหารการกิน ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องมีการปรับตัว เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ระบบเผาผลาญจะทำงานได้น้อยลง  ดังนั้น จึงควรมีหลักในการเลือกกินอาหารให้เหมาสมกับวัย ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานอาหารให้มีความหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ โดยมีคำแนะนำเกี่ยวกับสารอาหารแต่ละชนิด ดังนี้

โปรตีนจากเนื้อสัตว์

ควรรับประทานโปรตีนที่มาจากปลาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะปลาทะเล ที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น กรดไอโคซาเพนตาโนอิค (EPA) และ กรดโดโคเฮกซาโนอิค (DHA) ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างไขมันในเลือดชนิดดี ส่วนเนื้อสัตว์ที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื่องจากย่อยยาก หากเลือกทานให้เลือกที่ไม่ติดมัน

โปรตีนจากนม

ควรทานนมจากถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้แคลเซียมกับร่างกาย ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดการเกิดโรคกระดูกพรุนได้

คาร์โบไฮเดรต

ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใย เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮมวีท ฯลฯ ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดตรเชิงซ้อน จะให้พลังงาน วิตามิน เกลือแร่ และใยอาหาร สำหรับคาร์โบไฮเดรตที่มีน้ำตาลมาก ควรจำกัดการรับประทาน เพราะจะส่งเสริมให้มีการสร้าง ไตรกลีเซอไรส์ ในร่างกาย ที่จะนำไปสู่ความเสี่ยง ในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้

วิตามินและเกลือแร่

เลือกรับประทานผักผลไม้ต่าง ๆ ที่มีสารไฟโตเอสโตรเจน เช่น แอปเปิ้ล แครอท หอมหัวใหญ่ กระเทียม  ฟักทอง กะหล่ำปลี เป็นต้น ซึ่งสารไฟโตเอสโตรเจน จะช่วยลดอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวัยทองได้ เนื่องจากมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับ ฮอร์โทนเอสโตรเจน รวมถึง รับประทานผักผลไม้ ที่มีสารไบโอฟลาโวนอยด์ ช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และคอยปรับสมดุลให้กับร่างกาย เช่น มะขาม ส้มเขียวหวาน มะนาว เป็นต้น

ไขมัน

ควรเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เนื่องจากไม่ทำให้ ระดับคอเลสตอลเรล ในเลือดสูง เป็นแหล่งวิตามินอี และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่าง น้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันงา เป็นต้น

นอกจาก อาหารทั้ง 5 หมู่นี้แล้ว น้ำ ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ควรได้รับอย่างเพียงพอ เนื่องจากในวัยทองมีปัญหาในเรื่องปริมาณน้ำทั่วร่างกายลดลง เป็นผลให้เกิดอาการ ร้อนวูบวาบในร่างกายได้ ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้รักษา ปริมาณน้ำไว้ในร่างกาย ไว้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่แฝง น้ำตาล ตัวร้าย

อาหารจุดเจ๋ง ที่ช่วยบรรเทาความเครียด