อย่างที่เราคงทราบกันดีว่า
หากอยากทานสารอาหารที่มี โอเมก้า 3 ( Omega 3 )
ก็ต้องหาเนื้อปลามาทาน ความจริงแล้ว โอเมก้า 3 ( Omega 3 )
สามารถพบได้ในอาหารอีกหลากหลายอย่าง จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลย
ปกติแล้ว โอเมก้า 3 ( Omega 3 ) มักจะพบได้ในปลาทะเลน้ำลึก ดังเช่น ปลาแซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ปลาทูน่า, หรือปลาน้ำจืดบางชนิด
แต่เนื่องจากราคาวัตถุดิบเหล่านี้ ค่อนข้างจะสูงนัก ทำให้มีการสกัดเป็นอาหารเสริมบ้าง โอเมก้า 3 ( Omega 3 )
คือสารอาหารที่คนรักสุขภาพให้ความสนใจ ความจริงแล้ว มันคือกรดไขมันชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์
และมีความสำคัญขนาดที่ว่าร่างกายไม่สามารถขาดได้เลยทีเดียว
และไม่ใช่เพราะจะมีสารอาหารเหล่านี้อยู่ในปลาเท่านั้นเพียงอย่างเดียว
อาหารแบบอื่นก็มีเช่นกัน
ข้าวสีดำอเมริกา
ข้าวสีดำเพียงครึ่งชามมีกรดไขมัน
Omega 3 ประมาณ 240 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและเส้นใยเกือบสองเท่าของข้าวกล้อง และมีวิตามิน B, แมงกานีส,
สังกะสี, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียมจำนวนมาก แถมยังมีแคลอรี่ต่ำมาก เป็นทั้งอาหารเพื่อสุขภาพ
และอาหารสำหรับช่วงลดน้ำหนัก
น้ำมันคาโนล่า
น้ำมันคาโนล่ามีปริมาณกรดไขมัน
Omega 3 สูงสุดในบรรดาน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร
การใช้น้ำมันคาโนล่าในการทอดหรือผัด จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่ม Omega 3 เข้าไปในมื้ออาหารได้
น้ำมัน Flaxseed และ Flaxseed
ตามที่
Harvard Medical School Family เผยว่า Flaxseed มี Omega 3 ชนิดหนึ่งเรียกว่า
Alpha-linolenic Acid ( ALA ) ซึ่งร่างกายของคุณจะแปลงเป็นกรด
Eicosapentaenoic acid ( EPA ) และ Docosahexaenoic acid ( DHA ) และทั้งสองอย่างนี้พบในปลา
ทำให้มันเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ดีที่สุดในหารทำอาหาร
ถั่วลันเตา
ถั่วลันเตา
ประกอบด้วยกรดไขมัน Omega 3 ประมาณ 300 มก.
ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ
นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีน ( 11 กรัมต่อครึ่งถ้วย ) และเส้นใย ( 9 กรัมต่อครึ่งถ้วย
) จึงเหมาะจะเป็นวัตถุดิบที่นำมาทำของขบเคี้ยว
ไข่
ไข่ที่ดีที่สุดของ
Eggland มี Omega 3 ในปริมาณที่สูง
ไข่แต่ละใบมี Omega
3 ถึง 115 มิลลิกรัม
ซึ่งเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นสองเท่าของไข่ปกติอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากนม
วัว
แพะ และแกะ กินหญ้ารวมถึงพันธุ์พืชที่มีสารอาหาร Omega 3 จำนวนมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ทำให้สารอาหารเหล่านั้นถูกส่งผ่านมาทางน้ำนม ซึ่งหากคุณไม่สามารถทานเนื้อปลาได้
ผลิตภัณฑ์จากนมเหล่านี้นับเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่ม Omega 3 ให้กับร่างกาย
วอลนัท
วอลนัท
อุดมไปด้วย Omega
3 และสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย
สามารถนำมาปรุงอาหารได้ทั้งในรูปแบบของน้ำมัน และอื่นๆ น้ำมันวอลนัท มี Omega 3 มากกว่าน้ำมันมะกอกถึง
10 เท่า
อาหารเสริม
ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรืองดรับประทานปลา
อาจรับประทานอาหารอื่นที่มีการเติม Omega 3 ลงไป เพื่อให้ได้รับสารอาหารดังกล่าวในปริมาณที่เหมาะสมได้
โดยอาหารปรุงแต่งเสริม ที่ใส่ Omega 3 มีหลายอย่าง เช่น
ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง, โยเกิร์ต, น้ำผลไม้, นม, น้ำนมถั่วเหลือง หรือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นชนิดแคปซูลออร์แกนิค ซึ่งมีส่วนผสมมาจากน้ำมันมะพร้าว
และยังอุดมไปด้วย Omega 3 จากน้ำมันงาขี้ม้อน
มีกรดไขมันสายปานกลางที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน ย่อยง่ายและสามารถนำไปสร้างพลังงานได้
ไม่สะสมเป็นไขมันในร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบไหลเวียนโลหิต
ลดการอักเสบและความดันของหลอดเลือด
สำหรับคนรักสุขภาพตัวยง นอกจากทาน Omega 3 แล้ว ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
และอย่าลืมเสริมสร้างสุขภาพร่างกายด้วย น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นชนิดแคปซูลออร์แกนิค ยิ่งหากคุณเป็นคนที่รักการออกกำลังกายแล้วล่ะก็ ยิ่งตอบโจทย์ เพราะ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นชนิดแคปซูลออร์แกนิค สามารถช่วยลดน้ำหนัก เพื่อเร่งการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยบำรุงร่างกาย
หรือแม้กระทั่งผู้ที่รับประทานอาหารเจ หรือ มังสวิรัติก็สามารถทานได้เช่นกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก pobpad
อ่านบทความอื่นที่น่าสนใจ
ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1
ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1
ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่
ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษา กรดไหลย้อน ได้จริงหรือไม่