วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา


อาการระคายเคืองตานั้นมีอยู่หลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆมักมาจากฝุ่นหรือฝุ่นละออง ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายทำการป้องกันโดยการทำให้มีอาการคันตา ถ้าหากยังมีอาการต่อเนื่องไม่หายอาจจะเป็นเพราะคุณเป็น โรคภูมิแพ้ขึ้นตาวันนี้เราจึงมีวิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตามาฝากกันค่ะ

 

ภูมิแพ้ขึ้นตา คืออะไร

โรคภูมิแพ้นั้นมีหลายชนิด โดยอาการของโรคภูมิแพ้นั้น คือ อาการที่ร่างกายไวต่อสารเกิดภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ อาหาร ฯลฯ จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ซึ่งอาการของโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆมักจะเกิดขึ้นบริเวณดวงตา เรียกว่า โรคภูมิแพ้ขึ้นตาหรือ เยื่อบุตาอักเสบอาการที่เกิดขึ้น คือ มักมีอาการบวมของเปลือกตา คันตาทั้งสองข้าง มีขี้ตาเยอะ ตาแดงเล็กน้อย โดยเฉพาะเวลาที่เพิ่งตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งขี้ตาในตอนตื่นนอนนั้นจะมีลักษณะสีขาวขุ่น หรือ สีเหลืองอ่อนๆ แต่ถ้าขี้ตาของคุณเป็นสีเขียวแสดงว่ามีการติดเชื้อในบริเวณดวงตา บางคนมีสีขอบตาที่คล้ำกว่าปกติ อาการแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของดวงตา เช่น เปลือกตา เยื่อบุตา หนังตา ท่อน้ำตา หรือ ต่อมน้ำตา แต่ส่วนมากนั้นมักจะพบที่เยื่อบุตาขาว หรือ อาจจะมีอาการแพ้ที่จมูกร่วมด้วย โรคภูมิแพ้ขึ้นตานั้นอาการจะคล้ายกับการติดเชื้อไวรัส (Viral Conjunctivitis) และ แบคทีเรีย (Bactirial Conjunctivitis) ผู้ที่มีอาการใกล้เยงกับโรคภูมิแพ้ขึ้นตานั้นต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการักษาที่เหมาะสมกับอากาที่เกิดขึ้น แต่ถ้ามีอาการอักเสบรุนแรงโดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีเพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของกระจกตาได้

 

ประเภทของโรคภูมิแพ้ตา

1.กลุ่มที่อาการแพ้ไม่รุนแรง

กลุ่มที่อาการแพ้ไม่รุนแรง คือ เยื่อบุตาอักเสบอย่างเดียว ยังไม่ส่งผลกระทบต่อกระจกตา ซึ่งอาจจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ได้แก่ ฝุ่นละออง เกสรดกไม้ หรือ การใช้คอนแทคเลนส์โดยไม่ถูกวิธีหรือการใช้งานไม่เหมาะสมทำให้อาการภูมิแพ้แทรกซ้อนได้

2.กลุ่มที่อาการแพ้รุนแรง

กลุ่มที่อาการแพรุนแรง คือ กระจกตามีการอักเสบร่วมกับเยื่อบุตาด้วย กลุ่มที่อาการแพ้รุนแรงนั้นจะมีอาการเจ็บตา การมองเห็นถูกรอบกวนไม่ใช่แค่อาการคันตาหรือตาแดงเท่านั้น

 

สาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

1.ภูมิแพ้ขึ้นตาเฉียบพลัน (Acute Allergic Conjunctivitis)

ภูมิแพ้ขึ้นตาเฉียบพลันเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับสารก่อภูมิแพ้ที่ตนเองทราบและจะเป็นในเวลาที่นาน อาการที่เกิดขึ้นมักจะมีดวงตาสีแดง คัน น้ำตาไหลและเปลือกตาบวม หรือ อาจมีอาการน้ำมูกไหลร่วมด้วย ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดอาการเพ่อป้องกันอาการที่อาจจะส่งผลให้รุนแรงขึ้น

2.ภูมิแพ้ขึ้นตาตามฤดูกาล (Seasonal Allergic Conjunctivitis)

ภูมิแพ้ขึ้นตามฤดูกาลอาการแพ้จะไม่รุนแรงแต่จะเป็นในเวลานานและอาจะมีอาการน้ำมูกไหลและเจ็บคอร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักจะเกิดในฤดูกาลหรือช่วงเวลาที่มีฝุ่นละอองจำนวนมากและจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศในแต่ละวัน

3.ภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้อรัง (Chronic Allergic Conjunctivitis/Perennial Allergic Conjunctivitis)

ภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้องรังอาการภูมิแพ้ชนิดนี้จะเกิดขึ้นเรื้อรังตลอดปีแต่ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ที่พบในบ้าน ได้แก่ เชื้อรา ขนสัตว์ หรือ ฝุ่นละออง โดยอาจจะเกิดขึ้นร่วมกับการจามและน้ำมูกไหล ซึ่งเป็นผลจากโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ขึ้นตาเรื้อรัง

 

วิธีปองกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

1.ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่เป็นประจำ

2.ล้างมือก่อนการหยอดยาหรือทาขี้ผึ้งให้ตนเองและผู้อื่น

3.หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะก่อให้เกิดการแพ้

4.หมั่นเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องนอน เช่น ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน หรือ ปลอกหมอนด้วยน้ำร้อนและผงซักฟอกเพื่อลดไรฝุ่น เพราะเป็นสาเหตุของสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้

5.ควรทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอเพื่อป้องกันสารก่อภูมิแพ้ที่จะเกิดขึ้น

6.มีเครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier) ในบ้านเพื่อฟอกอากาศ กำจัดฝุ่นละออง หรือ ฟอกอากาศจากมลภาวะทางอากาศภายนอกที่เข้ามาภายในบ้านหรืออาคาร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นตาได้

7.ใช้เครื่องปรับอากาศหรือปิดหน้าต่างในฤดูกาลที่มีฝุ่นละอองหรือสารก่อภูมิแพ้

8.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม สารเคมี หรือ การย้อมสี

 

     การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ คือ วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตาที่ดีที่สุด ถ้าเกิดอาการขึ้นแล้วนั้นสิ่งที่ช่วยให้อาการไม่แย่ลงไปกว่าเดิม คือ การดูแลดวงตาของคุณไม่ให้ตกอยู่ในภาวะตาแห้งเพราะเมื่อตาของคุณแห้งนั้นจะเกิดอาการแพ้และทำให้คันมากจนเผลอตัวไปขยี้ตา ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าเกิดขึ้นในเด็กจะยิ่งทำให้ควบคุมยากกว่าเกิดในผู้ใหญ่ ตาทางที่ดีเมื่อมีอาการควรไปปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อดวงตาของคุณเอง

ด้วยความปรารถนาดีจาก เครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifier by ManNature)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook


ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่

ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษา กรดไหลย้อน ได้จริงหรือไม่

ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1

ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1