ความกังวลใจเมื่อผิวแตกลาย หลาย ๆ คนหาทางรักษา
บางคนเสียเงินไปหลายหลักเพื่อที่จะทำให้ผิวแตกลายนั้นหายไป แต่จริง ๆ
แล้วผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างน้ำมันมะพร้าวสามารถให้ประโยชน์ในด้านผิวหนังได้อย่างมากมาย
สาเหตุของรอยแตกลาย
ผิวแตกลายเกิดจากการที่ร่างกายนั้นขยายขึ้นอย่างรวดเร็วและผิวหนังนั้นไม่สามารถยืดเพื่อรองรับการขยายนั้นและคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้มากขึ้น
แต่ถ้าผิวหนังไม่มีคอลลาเจนมากพอก็สามารถเป็นสาเหตุของการเกิดผิวแตกลายได้
ในหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะเกิดผิวแตกลายเพราะการเติบโตอย่างพุ่งพรวดของเด็กในท้อง
สารสเตียรอยด์ก็สำคัญเพราะถ้าได้รับสารนี้มากเกินไปก็ทำให้ร่างกายเกิดผิวแตกลายได้เช่นกัน
รักษารอยแตกลาย
การรักษาผิวแตกลายจะเป็นการทำให้ผิวหนังในบริเวณนั้นบางลงด้วยจึงทำให้รอยแตกลายจางลง
แต่ไม่สามารถกำจัดรอยแตกลายให้ออกไปได้หมด ซึ่งมีวิธีการรักษาผิวแตกลายได้หลายวิธี
ดังนี้
1.ครีมบำรุงผิวหรือเจล
ครีมบำรุงผิวหรือเจลควรใช้ในขณะที่รอยแตกลายนั้นเป็นสีม่วงหรือสีแดง
ส่วนใหญ่แล้วครีมจะมีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Rerinoid) ซึ่งเป็นสารอนุพันธุ์ของวิตามินเอ อย่างเทรทิโนอิน (Tretinoin) กรดวิตามินเอในตัวครีมจะช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังขึ้นมาทดแทนทำให้รอยแตกลายปรับสภาพคล้ายกับผิวหนังปกติ
ผลข้างเคียงในครีมจะทำให้เกิดการระคายเคืองควรระมัดระวังในการใช้และยิ่งในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ควรจะระวังเป็นพิเศษ
ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีวิตามินเอหรือสำหรับคนท้องโดยเฉพาะ
2.บอดี้ออยล์บำรุงผิว (Body Oil)
บอดี้ออยล์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีแต่ควรใช้บอดี้ออยล์ที่ไม่มีส่วนผสมของ
Mineral Oil ที่ผลิตจากน้ำมันปิโตเลียม
ซึ่งจะทำให้ผิวอุดตันหรือเกิดสิวบนผิวหนัง
ซึ่งในยุคปัจจุบันมีบอดี้ออยล์ที่สกัดมาจากธรรมชาติ เช่น Rosehip Oil จะช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ทำให้รอยแตกลอยจางลงอย่างรวดเร็ว หรือ Sesame
Oil ที่ช่วยให้ผิวหนังกระชับและยืดหยุ่น
3.เลเซอร์
การรักษารอยแตกลายโดยวิธีเลเซอร์นั้นเป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง
เพราะแพทย์ต้องใช้เครื่องยิงลำแสงไปที่ผิวหนังบริเวณรอยแตกลายเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหรืออิลาสติน
โปรตีนที่ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดรอยแตกลายทำให้ผิวที่แตกลายนั้นกลมกลืนไปกับผิวปกติ
ถึงแม้จะไม่ทำให้รอยแตกลายหายไปแต่ทำให้จางลง
4.การกรอผิว (Microdermabrasion)
การกรอผิวนั้น
แพทย์จะใช้เครื่องมือพ่นผลึกแร่ที่ละเอียดมากเพื่อลอกผิวหนังกำพร้าชั้นตื้น
กระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวหนังใหม่และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังในบริเวณที่แตกลาย
วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูงและต้องทำซ้ำ ๆ หลายรอบ
หลังจากรักษาวิธีนี้ต้องหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและไม่เหมาะกับบุคคลที่มีสีผิวเข้มเพราะจะทำให้ยิ่งเกิดรอยและสีผิวหนังไม่สมดุล
5.การทำศัลยกรรม
การทำศัลยกรรมตกแต่งนั้นแพทย์จะนำเอาไขมันส่วนเกินในบริเวณหน้าท้องพร้อมกับผิวหนังที่มีรอยแตกออกไปเป็นการศัลยกรรมเพื่อความงามและมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากหลังจากศัลยกรรมแล้วจะมีรอยแผลเป็น
ไม่แนะนำถ้าไม่จำเป็น
6.น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)
น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) นอกจากจะนำมาปรุงอาหารและยังสามารถนำมาบำรุงผิวได้ ซึ่งน้ำมันมะพร้าว (Coconut
oil) เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติปลอดภัยต่อทุกเพศทุกวัยที่ใช้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)
มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวเพื่อรองรับจากการขยายหน้าท้องอย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์
แถมยังประหยัดต่อเงินในกระเป๋าอีกด้วย
ป้องกันรอยแตกลาย
ใครที่ยังไม่มีรอยแตกลายตามผิวหนังก็สามารถป้องกันก่อนที่จะเกิดรอยแตกลายได้เพราะถ้าเกิดขึ้นแล้วยากที่จะหายไป
การป้องกันที่ดีที่สุด คือ
การดูแลรูปร่างและน้ำหนักตัวควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ควรควบคุมอาหารรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์
เน้นอาหารที่ให้สารอาหาร เช่น วิตามิน แร่ธาตุ วิตามินอี วิตามินซี แร่สังกะสี
แร่ซิลิคอน
แต่ก็ไม่ต้องรับประทานมากจนเกินความเหมาะสมควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และทาน้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)
หรือน้ำมันธรรมชาติเพื่อป้องกันการเกิดรอยแตกลายไว้ได้
ถึงแม้ว่ารอยแตกลายจะยังไม่เกิดคุณก็สามารถป้องกันตัวคุณเองต่อการเกิดรอยแตกลายนั้นได้
ผิวหนังของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในวิธีการรักษารอยแตกลายต่าง ๆ ก็อยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็ไม่เสียหายและยังให้สารที่ดีแก่ผิวโดยมาจากธรรมชาติ ทำให้ผิวของคุณยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับทุกสภาพผิวง่าย ๆ ค่ะ
ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1
ทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช1เอ็น1
ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่
ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษา กรดไหลย้อน ได้จริงหรือไม่