น้ำมันกัญชาใช้ถูกวิธีมีประโยชน์
โดยต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ
ซึ่งหากมีผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจมากพออาจส่งผลให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้
จึงควรใช้ตามทางการแพทย์หรือได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ผลกระทบต่อผู้ที่ใช้ไม่ถูกวิธี
สถานการณ์ปัจจุบันผู้คนสนใจอย่างมากกับน้ำมันกัญชา
ทั้งในแง่ของการรักษาโรคและการรับรู้ข่าวสารทางโซเชียลเพราะนักมันกัญชานั้นมีประโยชน์ในทางการแพทย์ถ้าใช้อย่างถูกวิธีและจะส่งผลข้างเคียงกับผู้ที่ใช้ไม่ถูกวิธี
ในด้านของสุขภาพจิตมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ต้องรอการวิจัยเพิ่มเติมในการรักษาโรคจิตเวช
เช่น โรควิตกกังวล
แต่สำหรับผู้ที่นำไปใช้อย่างไม่ถูกต้องไม่ได้รับการดูและหรือปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบต่อสมองของผู้ใช้ ถ้ายังใช้เรื่อย ๆ
ในระยะยาวจะทำให้เสี่ยงต่ออาการทางจิตเวช เช่น หูแว่ว เห็นภาพหลอน
หวาดระแวงและอาจจะไปขั้นเป็นโรคซึมเศร้า มีโอกาสที่จะฆ่าตัวตายได้สูง
น้ำมันกัญชาใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์
การใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ที่จะทำให้เกิดประโยชน์นั้นจึงควรใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงเท่านั้นเพราะต่อมรับ
หรือ Receptor กลุ่มสารแคนนาบินอยด์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
สำหรับบางคนต้องใช้ปริมาณน้อยนิดที่เกิดอาการที่ข้างเคียงมาก
บางคนต้องใช้ในปริมาณที่มากถึงจะเห็นผล ซึ่งบางคนไปทดลองใช้กันเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจะทำให้อาการป่วยนั้นรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม
สารสกัดจากกัญชาสามารถเข้าไปเติมต่อมรับกัญชาในร่างกายมนุษย์ได้และช่วยปรับสมดุลของร่างกาย
แต่ในวงการแพทย์แผนไทยจะรู้ถึงผลเสียของกัญชาที่มีผลต่อหัวใจ
ซึ่งถ้าใครที่ทดลองเองนั้นอาจจะทำให้ “แสลงกับหัวใจพิการ”
และยังมีผลเสียในเรื่องของระบบทางเดินอาหารถ้ารับสารในกัญชามากเกินความเหมาะสมจะทำให้ระบบทางเดินอาหารเคลื่อนตัวช้าลง
จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูกรวมไปถึงส่งผลกระทบที่ร้ายแรงไปถึงระบบภูมิคุ้มกัน
ทางที่ดีผู้ใช้ควรใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาโรค
รูปแบบของกัญชา
1.กัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) เป็นพืชในกลุ่มตระกูลกัญชาที่แสดงออกให้ผลเป็นไฟเบอร์ ซึ่งมีสาร THC
น้อยกว่า 0.3 เปอร์เซ็นต์
2.สมุนไพรกัญชา ประเภทแบบสดและแบบตากแห้ง
ทั้งใบและดอกกัญชาไม่รวมลำต้น ราก และเมล็ด โดยปกติแล้วสาร THC ประมาณ 0.5 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์
ส่วนมากจะใช้ในการจุดเผาและสูบในรูปแบบเดียวกับบุหรี่หรือใช้ร่วมกับยาสูบ
3.ยางเรซินกัญชา หรือ แฮซิสช์ (Hashis) เป็นยางที่ได้จากการบีบอัด โดยปกติแล้วจะใช้ผสมกับสมุนไพรกัญชา หรือ
บุหรี่กลุ่มนี้จะมี THC ประมาณ 2 – 20 เปอร์เซ็นต์
4.น้ำมันกัญชา
การใช้สารละลายเพื่อดึงสารสำคัญจากสมุนไพรกัญชาหรือจากยางเรซินกัญชา
โดยปกติแล้วจะมีสาร THC ประมาณ 10 – 30 เปอร์เซ็นต์
ปัญหาข้างเคียงเมื่อใช้เกินความเหมาะสม
1.ให้ปริมาณที่น้อยลงกว่าเดิมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นและสำหรับใครที่ใช้น้ำมันกัญชาโดยการนำน้ำมันกัญชาไปหยอดใต้ลิ้น
ลองลดปริมาณขนาดของยาให้เข้มข้นน้อยลง โดยหยอดใส่น้ำ 1 แก้ว
แล้วดื่มผ่านกระบวนการย่อยปกติแทนการหยอดใต้ลิ้นอาจจะมีความรู้สึกดีขึ้นกว่าวิธีเดิม
2.อาศัยความรู้จากเภสัชยุคปัจจุบันมาเป็นทางแพทย์แผนไทยเพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น
สำหรับน้ำมันกัญชาแล้วสามารถนำมาช่วยในการศึกษาอย่างระบบการปวด
การเกร็งจากโรคปลอกประสาทอักเสบ
อย่างไรก็ตาม
กัญชายังไม่ประสบความสำเร็จในการลดอาการปวดอย่างชัดเจนทั้งการปวดในผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นโรคมะเร็ง
กัญชาในทางการแพทย์อาจจะลดการใช้มอร์ฟีนลงก็ตาม
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมอร์ฟีนยังจำเป็นอย่างมากในการระงับอาการปวดในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยังจำเป็นอย่างมาก
กัญชาจะใช้ได้ผลและบรรเทาการปวดเมื่อได้รับสาร THC ประมาณ
27 มิลลิกรัม และ CBD 25 มิลลิกรัมต่อวัน
สำหรับใครที่ใช้กัญชาเพื่อที่จะลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน พบว่า
สารสกัดในกัญชาช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียนจากการทำคีโมบำบัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง
แต่กัญชาแบบชนิดก็กระตุ้นอาการคลื่นไส้และอาเจียน
สุดท้ายแล้วก่อนจะใช้น้ำมันกัญชาควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริง
ๆ เพราะกัญชานั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ใช่ว่าทุกประเภทจะออกฤทธิ์เหมือนกัน
จึงต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์มากกว่าสุ่มเสี่ยงไปลองน้ำมันกัญชาเอง
ด้วยความปรารถนาดีจาก Pordeeshops