ผักที่ไม่ควรกินดิบ

ผักที่ไม่ควรกินดิบ


ใครๆ ต่างก็รู้ว่ากินผักนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าผักบางชนิดไม่ควรกินดิบ ควรนำไปปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ร่างกายได้รับโทษมากกว่าประโยชน์ !


มันฝรั่ง

     มันฝรั่งเป็นพืชที่ไม่ควรกินดิบโดยเด็ดขาด ก่อนกินต้องผ่านความร้อนก่อน เนื่องจากในมันฝรั่งดิบมีสารโซลานีน สารพิษไกลโคแอลคาลอยด์ เป็นสารที่พืชสร้างมาเพื่อปกป้องตัวเองจากแมลงศัตรูพืช หากกินเข้าไปในปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น ใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้


กะหล่ำปลี

     เนื่องจากในกะหล่ำปลีดิบ มีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน เป็นสารที่จะไปขัดขวางไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน ถ้ากินกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดโรคคอหอยพอก อีกทั้งยังทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อนจากการต้ม ดังนั้น กินกะหล่ำปลีสุกจึงดีกว่า


ผักโขม

     ผักโขมมีกรดออกซาลิก ที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมไปใช้ ดังนั้นคนที่ขาดธาตุเหล็กหรือแคลเซียมจึงไม่ควรทานผักโขมแบบดิบ ๆ แต่กรดออกซาลิกจะหมดฤทธิ์ทันทีเมื่อเจอความร้อน ดังนั้นควรปรุงให้สุกก่อนนำมารับประทานนั่นเอง


ถั่วฝักยาว

     ถั่วฝักยาวเป็นพืชที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงสูง ดังนั้นหากทานถั่วฝักยาวดิบ ๆ ที่มีการปนเปื้อนสารพิษเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้ และยังมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ค่อนข้างสูง ทำให้ท้องอืด ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาการย่อย และกลุ่มผู้สูงอายุ แต่หากชอบทานแบบดิบ ๆ ควรล้างให้สะอาดก่อน โดยหักเป็นท่อนแล้วนำไปแช่น้ำนาน ๆ หรือไม่ก็เลือกทานแบบสุกจะปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่า


ถั่วงอก

     ในถั่วงอกดิบมักจะมีการปนเปือนมีแบคทีเรียอันตรายหลายชนิด เช่น อีโคไล ซัลโมเนลลา โซเดียมซัลไฟต์ ซึ่งเป็นสารฟอกขาวที่พ่อค้าแม่ค้ามักจะนำไปใส่ให้มีสีขาวน่าทาน และมีไฟเตทสูง ซึ่งไฟเตทจะเข้าไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร ทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุได้ ดังนั้น ควรทำให้สุกก่อนกินเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย สารไฟเตท และสารฟอกขาว


แคร์รอต

     การกินแคร์รอตดิบจะทำให้การดูดซึมสารเบตาแคโรทีน ที่เป็นตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระได้น้อยลง แต่หากนำไปผ่านการปรุงอาหารด้วยความร้อนจะช่วยเพิ่มปริมาณสารแคโรทีนอยด์ ได้มากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง


หน่อไม้

     หน่อไม้ดิบมีสารที่จะเปลี่ยนเป็นไซยาไนด์ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกายได้ และหากร่างกายได้รับสารตัวนี้ในปริมาณมากจะเข้าไปจับกับฮีโมโกลบิน ทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน ทุรนทุราย หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ ก่อนกินจึงควรต้มในน้ำเดือดนานเกิน 10 นาทีก่อน จึงจะปลอดภัย


     ดังนั้นวิธีทานผักอย่างปลอดภัย คือ การล้างผักให้สะอาด อาจแช่น้ำทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนล้างอีกครั้ง หรือล้างแบบน้ำไหลผ่าน และก่อนรับประทานควรนำไปปรุงอาหารผ่านความร้อน เพื่อให้เชื้อแบคทีเรียสลายไป เราก็จะทานผักได้อย่างปลอดภัยแล้วค่ะ


วิธีบำรุงผม เปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย

วิธี บำรุงผม เปลี่ยน ผมเสีย เป็น ผมสวย

ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่

ผงกล้วยน้ำว้าดิบ รักษา กรดไหลย้อน ได้จริงหรือไม่